Content > Handbook

การต่ออายุวีซ่าและการขอใบขออนุญาตทำกิจกรรมพิเศษนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในวีซ่า(資格外活動許可)

สำหรับหลายๆคน เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ทำแค่ครั้งเดียวหรือไม่ต้องทำเลย แต่เป็นเรื่องสำคัญครับ อย่างที่ทราบกัน วีซ่านักเรียนญี่ปุ่นจะให้แค่ 2 ปีก่อน ถึงแม้ว่าคอร์สที่เรียนจะนานกี่ปีก็ตาม เมื่อผ่านไป 2 ปี ทุกคนก็ต้องไปต่ออายุวีซ่า เป็นระเบียบของที่นี่ครับ ในครั้งนี้ผมจะพูดถึงการทำเรื่องเอกสาร การไปยื่นขอและการไปรับสติกเกอร์แปะนะครับ แล้วจะขอพูดถึงการทำใบขออนุญาตทำกิจกรรมพิเศษ ซึ่งจริงๆแล้วก็คือใบขอทำไบท์(งานพิเศษ)อย่างเป็นทางการครับ สำหรับรายละเอียดบางจุดอาจไม่ตรงกันบ้างแล้วแต่ศูนย์ที่ไปทำหรือมหาวิทยาลัยที่อยู่นะครับ เที่ยวนี้ผมจะพูดโดยอิงจากประสบการณ์ที่ไปทำมานะครับ

เริ่มต้นด้วยการขอเอกสารก่อน ให้ยื่นก่อนที่ระยะเวลาพำนักจะหมดลงครับ เอกสารที่จำเป็นมีดังนี้ครับ

  1. ใบทำเรื่อง  ใบนี้สามารถโหลดได้จากเนตครับ สำหรับบางมหาลัยที่มีนักเรียนต่างชาติอยู่เยอะ หรือมีฝ่ายดูแลนักเรียนต่างชาติ น่าจะสามารถขอได้ที่ฝ่ายนะครับ ใบนี้ให้กรอกให้เรียบร้อย ก่อน ที่จะไปยื่นเรื่องที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนะครับ แล้วใบนี้มีส่วนที่ ต้องให้มหาลัยเซ็นรับรอง ด้วยนะครับ(จะอยู่ในหน้าที่ 3-4) ผมแนะนำให้ปริ้นท์ใบออกมาแล้วเอาไปให้ที่ศูนย์ดูแลนักเรียนต่างชาติดูแล้วกรอกไปพร้อมๆกันน่าจะดีที่สุดครับ สุดท้ายจะมีที่ให้มหาลัยเป็นคนประทับตราด้วย การทำเรื่องขอประทับตราอาจจะใช้เวลา 2-3 วันแล้วแต่มหาลัย เรื่องนี้ให้คอนเฟิร์มกับทางมหาลัยล่วงหน้าน่าจะดีที่สุดครับ
  2. สำเนาบัตรเอเลี่ยน วันไป อย่าลืมเอาบัตรเอเลี่ยนไปด้วยนะครับ
  3. สำเนาบัตรนักเรียน สำหรับคนที่ทำเรื่องตอนกำลังจะต่อโทหรือต่อเอก ให้ใช้เป็นใบรับรองให้เข้าเรียน (入学許可書)แทนนะครับ ใบนี้ทางมหาลัยจะส่งให้ก่อนเข้าเรียนประมาณเดือนถึงสองเดือนครับ
  4. ใบเกรด อันนี้ใช้เป็นสำเนาแทนได้ครับ ให้เอาของตั่งแต่ที่มาเรียนที่นี่ไปนะครับ(เช่นต่อโท ให้เอาของตรีไป ถ้าอยู่โท ให้เอาตั่งแต่ที่เรียนโทมาไป เป็นต้น)
  5. ใบรับรองความเป็นนักเรียนทุน สำหรับคนที่ได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ต้องทำเรื่องใบรับรองความเป็นนักเรียนทุนจากมหาลัยด้วย ตรงนี้ให้ไปทำเรื่องกับมหาลัย โดยปกติน่าจะใช้เวลา 2-3 วันครับ สำหรับทุนอื่นๆ ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน ยังไงให้ลองสอบถามกับทางมหาลัยว่าขอได้หรือไม่นะครับ
  6. อย่าลืมนำหนังสือเดินทางไปด้วยนะครับ(ถ้ามีเล่มที่มีรายละเอียดการเข้าญี่ปุ่นในตอนแรกให้นำไปด้วย)

เมื่อเอกสารครบแล้วก็เดินทางไปทำเรื่องที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองซึ่งจะมีอยู่ทั่วไปตามเมืองใหญ่ๆในญี่ปุ่นครับ สำหรับที่โตเกียวจะอยู่ที่ ชินางาวะ(品川)กับทาจิกาวะ(立川)การเดินทางให้ไปที่สถานีเจอาร์ แล้วจะมีป้ายบอกทางไปขึ้นบัสเพื่อไปสำนักงานครับ ทั้งสองที่จะมีป้ายภาษาอังกฤษตลอด ไม่ต้องกลัวหลงเลยครับ สำหรับเวลาทำการของทั้ง 2 ที่นั้นจะเริ่มให้บริการตั่งแต่ 9.00-16.00 เฉพาะวันทำการ โดยเริ่มให้บัตรคิวก่อนหน้านั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงนะครับ ในช่วง 12.00-13.00 จะเป็นเวลาพักเที่ยง แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการอยู่บางส่วนครับ สำหรับคิวแล้ว ไม่มีการแบ่งรอบเช้ารอบบ่าย ไครที่มายื่นตอนเช้า ถ้ายังไม่เสร็จก็จะทบส่งไปรอบบ่ายต่อ ดังนั้น แนะนำให้รีบมาแต่เช้าจะดีกว่าครับ (เที่ยวล่าสุดเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา ผมไปตอน8.45 ได้บัตรคิวคนที่ 50 กว่าๆครับ เสร็จเรื่องตอน 10.15 ตอนนั้นเห็นคนที่มาใหม่รับบัตรคิวเบอร์ 200 กว่าแล้ว…)

การยื่นเรื่องก็ให้ไปยื่นเอกสารกับใบคำร้องที่ช่องยื่นเรื่องเอกสาร ส่วนการชำระค่าธรรมเนียมนั้นจะทำในวันรับนะครับ เมื่อยื่นเอกสารแล้ว เจ้าหน้าที่จะตรวจเอกสาร ถ้ามีเอกสารขาดหรือลืมเซ็นช่องไหน เจ้าหน้าที่จะคอยบอกเราให้กรอก ก็ทำตามที่เขาบอกให้นะครับ เมื่อตรวจเช็กเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะให้บัตรคิวมาแล้วบอกให้ไปนั่งรอเรียกเพื่อยื่นเอกสารอีกที (ตรงนี้เอกสารยังอยู่ที่เรานะครับ ถ้าขาดเอกสารพวกสำเนาทั้งหลาย เขาก็จะให้ไปถ่ายเอกสารช่วงนี้ แล้วเอามายื่นตอนยื่นเอกสารทีเดียวครับ)

สำหรับการยื่นเอกสารนอกจากยื่นเอกสารเพื่อขอต่ออายุวีซ่าแล้วยังสามารถที่จะยื่นขอเอกสารอื่นๆได้พร้อมๆกัน เช่น ใบขออนุญาตทำกิจกรรมพิเศษนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในวีซ่า(資格外活動許可)หรือ Re-entry โดยไปกรอกใบขอแล้วยื่นไปพร้อมกัน สำหรับเอกสารประกอบการยื่นขอใบเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะใช้เอกสารเดียวกับการยื่นต่อวีซ่าอยู่แล้ว เช่น สำเนาบัตรนักเรียน สำเนา Alien card ถ้ายื่นพร้อมกัน ตอนวันมารับก็มาเอาทีเดียวเลย ก็สะดวกดีครับ

สำหรับเรื่อง Re-entry รัฐบาลญี่ปุ่นจะทำการเปลี่ยนระบบการจัดการคนต่างชาติในประเทศใหม่ โดยจะเริ่มใช้งานตั่งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม โดยรายละเอียดส่วนใหญ่ที่แตกต่างจากเดิมก็มี การเปลี่ยน Alien card (ชื่อแตกต่างกันก็จริงแต่รายละเอียดก็ยังคล้ายๆเดิมน่ะครับ อาจจะมีแตกต่างในเรื่องการย้ายที่อยู่ รายละเอียดส่วนนี้จะพูดตอนหลังอีกทีครับ) ระยะเวลาการพำนักขยายออกเป็นสูงสุด 3 ปี (สำหรับนักเรียนเป็นสูงสุด 4 ปี 3 เดือน ต่อไปก็คงไม่ต้องต่อกันแล้วนะครับ ไครที่มาใหม่ก็ยินดีด้วยครับที่ไม่ต้องมาทำเรื่องพวกนี้ให้เมื่อยตุ้ม ส่วนคนที่มาก่อนเค้าเปลี่ยนก็ต้องทนทำเรื่องกันต่อไปนะครับ = =;) และที่สำคัญที่สุดที่หลายๆคนสนใจคงเป็นการเปลี่ยนระบบ Re-entry ครับ เท่าที่ผมเข้าใจในตอนนี้คือถ้าออกนอกประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 1 ปี ขอเพียงแค่แสดง Alien card(ใบใหม่ที่จะเริ่มใช้งานหลังวันที่ 9 กรกฎาคม) ก็สามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมี Re-entry ครับ พูดง่ายๆคือ ไครมีแผนกลับประเทศหรือไปเที่ยว หลังวันที่ 9 กรกฎ ไม่ต้องยื่นเรื่องทำ Re-entry ครับ (ส่วนไครที่มีแผนก่อนหน้านั้นก็จำเป็นต้องยื่นเรื่องไปตามปกติครับ)

เมื่อยื่นเอกสารเสร็จแล้ว เขาจะประทับตราในหนังสือเดินทางบอกว่าเรายื่นเรื่องแล้ว พร้อมเขียนช่วงเวลาที่ให้มารับ พร้อมกับให้เขียนไปรษณียบัตรจ่าหน้าถึงตัวเราเองไว้ด้วย ตรงนี้ ถ้าไม่มีการส่งไปรษณียบัตรใบนั้นมาก่อนวันที่เขาเขียนไว้ในหนังสือเดินทาง แปลว่าไม่มีปัญหา สามารถมารับได้เลยครับ ถ้ามีไปรษณียบัตรมา ก็ดูตามนั้นนะครับ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 3 อาทิตย์ ถึง 1 เดือนครับ (ผมยื่นเรื่องไป 9 เมษา เขาให้มารับวันที่ 7 พฤษภาครับ)

เวลามารับก็เหมือนกันครับ คือมาต่อคิวรับบัตรคิว อย่าลืมนำหนังสือเดินทาง(เล่มเก่าถ้ามีก็ดี) กับ Alien card มาด้วยนะครับ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามารับวีซ่า บวกกับเอกสารอื่นๆแล้วก็จะได้บัตรคิวพร้อมใบจ่ายเงิน สำหรับจุดยื่นเรื่อง ถ้าเป็นที่ชินางาวะ จะอยู่คนละจุดกันเป็นจุดประทับตราเอกสาร(จุด A สีแดง)นะครับ ส่วนใบจ่ายเงิน ให้ไปซื้อแสตมป์มาติดจากคอมบินี่แถวๆนั้น เช็กจำนวนเงินให้ดีนะครับ เพราะซื้อแล้วเปลี่ยนไม่ได้ครับ สำหรับการต่อวีซ่า ค่าธรรมเนียม 4000 เยน Re-entry Single 3000 เยน Multiple 6000 เยน ใบขออนุญาตทำกิจกรรมพิเศษนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในวีซ่า(資格外活動許可)ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมครับ ใบจ่ายเงินนี่ถ้ามั่นใจว่าเราจะต้องเสียเท่าไร ให้หยิบใบที่เขาวางไว้ให้แถวๆนั้นไปซื้อแล้วค่อยมายื่นตอนรับใบคิวทีเดียวก็ได้ครับ ถ้าไม่มั่นใจ ผมว่าให้เขาจัดการวงให้ก่อนแล้วค่อยไปซื้อ จะอุ่นใจกว่าครับ

การรอรับตรงนี้ไม่นานเท่าตอนยื่นเอกสารครับ 100 กว่าคิว ใช้เวลาแค่ชั่วโมงนิดๆก็ได้รับแล้ว (ผมได้บัตรคิวตอน 11.30 เบอร์ 419 ตอนนั้นพึ่งเรียกถึง 289 ลงไปซื้อน้ำแล้วกลับขึ้นมาแป๊ปเดียว เรียกถึง 389 แล้วก็เข้าตอนพักเที่ยงพอดี ช่วงพักเที่ยงก็เรียกไปเรื่อยๆ แล้วได้ตอน 12.30 ถ้าเรียกเลยไม่ต้องตกใจครับ ไปที่ช่องบอกเขาว่าเรียกไปแล้ว เขาก็ยินดีจัดการให้ครับ)

เอกสารที่ได้รับมาก็จะแปะติดไว้ในหนังสือเดินทางเลย ต่อจากนี้สิ่งที่ต้องทำอีกอย่างคือเอาหนังสือเดินทางที่มีวีซ่านี้ไปแจ้งกับทางเขตเพื่อให้เจ้าหน้าที่แก้ใน Alien card ของเราด้วยครับ อย่าลืมเอาไปแก้นะครับ ไม่งั้นตอนโดนเรียกตรวจบัตร จะโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเอ็ดเอาครับ

สำหรับการยื่นเรื่องขอต่ออายุวีซ่าก็จบเพียงเท่านี้ครับ เนื่องด้วยระบบใหม่ที่สะดวกขึ้น คงทำให้พี่ๆน้องๆที่พึ่งมาไม่ต้องไปทำเรื่องเหล่านี้ให้วุ่นวาย แต่สำหรับพี่ๆน้องๆที่มาก่อนหน้าระบบนี้ ก็คงต้องโผล่หน้าไปทำเรื่องกับเจ้าหน้าที่ซักครั้งล่ะครับ ก็หวังว่าไกด์นี้จะช่วยให้พี่ๆน้องๆสะดวกในการทำเรื่องนะครับ

รายละเอียดระบบจัดการคนต่างชาติรูปแบบใหม่ (เริ่มใช้วันที่ 9 กรกฎาคม)
จากเอกสารที่ได้รับตอนวันไปทำเรื่อง ประกอบไปด้วย 3 เรื่องดังนี้ครับ

  1. ยกเลิก Certificate of alien registration ไปใช้ Residence Card แทน ตรงนี้นอกจากบัตรใหม่แล้ว แผนกที่ไปทำเรื่องย้ายที่อยู่จะเปลี่ยนไปครับ จากเดิมที่เป็นแผนกคนต่างชาติก็จะเปลี่ยนเป็นแผนกจัดการที่อยู่เขต เหมือนคนญี่ปุ่นแทนครับ
  2. ระยะเวลาการพำนักขยายขึ้นเป็นสูงสุด 5 ปี สำหรับผู้ที่มาทำงานและภรรยาคู่สมรส ส่วนนักเรียนนักศึกษา จะเป็น 4 ปี 3 เดือนครับ ตรงนี้จะมีการซอยย่อยระยะเวลาที่ให้อยู่มากขึ้น ในกรณีนักเรียนจะเป็น 4 ปี 3 เดือน, 4 ปี , 3 ปี 3 เดือน, 3 ปี, 2 ปี 3 เดือน, 2 ปี, 1 ปี 3 เดือน, 1 ปี, 6 เดือน และ 3 เดือน ตรงนี้คงต้องมาดูระบบอีกทีว่าทางรัฐบาลจะอนุญาตให้พวกเราได้รับกี่ปียังไงบ้างอีกทีครับ
  3. ระบบ Re-entry เปลี่ยน โดยสำหรับผู้ถือ Residence card จะสามารถออกและกลับมาในประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องใช้ Re-entry ถ้าระยะเวลาที่ออกจากประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 1 ปี ตรงนี้ประหยัดเงินพวกเราได้มากโขล่ะครับ

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยๆนิดหน่อย เช่น สามารถทำเอกสารต่างๆรวมถึงบัตร Residence card ได้ตั่งแต่ตอนลงจากเครื่องบินที่ฮาเนดะ นาริตะ เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติมให้ติดตามจากเอกสารที่แจกโดยทางเขตนะครับ

นักท่องเที่ยวไส้แห้ง